บทความเขียนโดย อ.จิรัฏฐ์ หิรัญปภาพิศุทธิ์
หุ้น คือ อะไร?
ตามความหมายของ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายความว่า ส่วนที่ลงทุนเท่ากันในการค้าขาย (เทียบภาษาจีนแต้จิ๋ว หุ่ง ว่า หุ้น ส่วน) หรือ หน่วยลงทุนแต่ละหน่วยที่มีมูลค่าเท่า ๆ กัน ซึ่งรวมกันเป็นทุนเรือนหุ้นของบริษัทจํากัด
ส่วนความหมายในทางการเงินนั้น หุ้น หมายถึง “หุ้นส่วน” หรือ “เจ้าของบริษัท” ตามสัดส่วนที่ตนเองมีหุ้นอยู่ จัดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- Common Stock หรือ หุ้นสามัญ ก็จะเหมือนหุ้นของบริษัทจดทะเบียนทั่วไป ผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์มีเสียงในการออกเสียงโหวตในบริษัท (ตามแบบประชาธิปไตย) เพื่อผ่านมติที่ประชุมในการดำเนินการของบริษัท
- Prefer Stock หรือ หุ้นบุริมสิทธิ์ ชื่ออยากจะดูแปลกไปบ้าง แต่มันคือหุ้นประเภท หนึ่งเช่นเดียวกับหุ้นสามัญ เพียงแต่ว่าหุ้นชนิดนี้จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น หากแต่ได้รับสิทธิพิเศษ เช่น เงินปันผล จะได้รับในอัตราที่ได้กำหนดไว้ และจะได้รับก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ ทั้งนี้ หุ้นลักษณะนี้จะไม่ได้พบบ่อยนักในบริษัทจดทะเบียนของไทย เนื่องจากต้นทุนเงินของบริษัทจะสูงขึ้น เนื่องจากต้องจ่ายปันผลในอัตราที่กำหนด หากปีไหนบริษัทขาดทุนหรือไม่มีกำไร และไม่ได้จ่ายปันผล จะถูกคิดทบไปจ่ายในปีต่อๆ ไปที่เริ่มมีกำไร
ดังนั้นคำว่า “หุ้น” ที่เราพูดถึง มักจะถูกใช้เรียก “หุ้นสามัญ” เสียมากกว่า
เมื่อพูดถึงคำว่าหุ้นแล้ว ต้องมีอีกคำตามมา “ตลาดหุ้น” หลายคนอาจจะนึกถึงบ่อนการพนันเนื่องจากอาจจะได้รับภาพที่ไม่ได้จากตลาดหุ้นเมื่อหลายสิบปีก่อนที่ต้องยอมรับว่ามีการ “ปั่นหุ้น” ทำให้หลายคนเป็นเศรษฐี หรือ ยาจก ได้ภายในระยะเวลาอันนั้น มันจึงทำให้ภาพ “ตลาดหุ้น” ติดภาพลบสำหรับคนยุคก่อน จนทำให้พ่อหรือแม่ หรือคนค่อนข้างจะมีอายุ รู้สึกไม่ค่อยดีกับการลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อพูดถึงตลาดหุ้นมันจะถูกผูกกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Stock Exchange of Thailand : SET) เนื่องจากตลาดหุ้นจัดอยู่ในประเภทตลาดทุน ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยเงินทุนจากนักลงทุนที่มีกำลังทรัพย์ หรือมีเงินลงทุนที่พร้อมจะนำไปลงทุนทำธุรกิจผ่านการซื้อหุ้น
กล่าวโดยย่อ “ตลาดหุ้น” คือ ตลาดกลางที่นำหลายๆ บริษัทมารวมกันที่เดียว ในที่นี้จะเรียกว่า “บริษัทจดทะเบียน” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสองฝ่าย ดังนี้
- นักลงทุน – สามารถมาเลือกช๊อปปิ้งซื้อหุ้น หรือเลือกลงทุนในบริษัท หรือ ธุรกิจที่ตนเองสนใจได้ โดยนักลงทุนมีกำลังทรัพย์ หรือเงินเหลือจากการทำงาน หรือ ต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากเงินลงทุน สามารถนำเงินมาซื้อหุ้นของบริษัทที่นักลงทุนสนใจได้ นักลงทุนจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของบริษัทตามจำนวนหุ้นที่ได้ซื้อลงทุน หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่จะนำเงินเราไปจัดการ นักลงทุนเพียงแต่ตรวจสอบการทำงานของบริษัท และ รอรับผลตอบแทน
- บริษัท – สามารถมาระดมเงินทุนจากตลาดหุ้นได้ ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แทนการกู้เงินจากธนาคาร ซึ่งมีต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนจะถูกบริษัทนำไปลงทุนทำธุรกิจต่อไป ซึ่งในท้ายที่สุดจะทำให้กลไกของธุรกิจประเทศเดินต่อไป และก้าวหน้าทัดเทียมนานาชาติ
เมื่อลงทุนแล้วนักลงทุนจะได้อะไรจากการลงทุน? เมื่อซื้อหุ้นแล้วนักลงทุนมีสิทธิ์เทียบเท่าเจ้าของบริษัทตามสัดส่วนของหุ้นที่ตนเองถือลงทุน หากท่านใด หรือกลุ่มใด ถือหุ้นมากกว่า 50% จะทำให้มีสิทธิ์เด็ดขาดในการบริหารจัดการ นักลงทุนที่ถือหุ้นส่วนใหญ่จะเรียกว่า “นักลงทุนรายย่อย”
ผลตอบแทนจากการลงทุนที่นักลงทุนจะได้รับเมื่อซื้อหุ้น
- เงินปันผลตอบแทน – ทุกๆ ปีเมื่อบริษัทดำเนินธุรกิจไปและมีกำไรเข้ามา ผู้บริหารจะพิจารณาว่าจะแบ่งกำไรให้กับนักลงทุนอย่างไร ซึ่งเงินก้อนนั้นจะเรียกว่า “เงินปันผล” โดยเงินปันผลนั้นไม่มีกฏหมายฉบับไหนกำหนดให้ต้องจ่าย ดังนั้น นักลงทุนที่หวังผลตอบแทนจากเงินปันผลควรจะต้องทำการตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนลงทุนว่า บริษัทมีการจ่ายปันผลในอดีตหรือไม่
- กำไรจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น – นักลงทุนได้ลงทุนซื้อหุ้นเป็นที่เรียบร้อย และถือลงทุนไปได้สักระยะหนึ่ง ปรากฏว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าต้นทุนที่นักลงทุนได้ซื้อไว้จะทำให้นักลงทุนมีกำไรหากทำการขายหุ้นที่ถืออยู่ออกไป ตรงกำไรส่วนนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Capital Gain“ หรือ กำไรส่วนต่างจากราคาหุ้น ผู้เขียนต้องบอกว่ากำไรจากตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้นักลงทุน “รวย” หรือ “ขาดทุน” จากการลงทุน เพราะ ในตลาดหุ้นไทยมีหุ้นหลายตัวที่สามารถสร้างผลตอบแทน และผลกำไรได้มหาศาลในเวลาอันนั้น ดังนั้นนักลงทุนควรทำการศึกษา และวิเคราะห์หุ้นได้ด้วยตนเอง จะทำให้นักลงทุนสามารถคัดเลือก คัดกรอก หุ้นที่เหมาะสมกับการลงทุนได้
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะทำให้ผู้ที่เริ่มต้นศึกษาเรื่องหุ้น หรือ ผู้ที่สนใจ อยากจะลงทุนในหุ้นได้ความรู้และไอเดียเพื่อจุดประกายในการศึกษาด้านการลงทุนต่อไป
ทางสถาบันของเราเองเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาความรู้ความสามารถของนักลงทุนรุ่นใหม่ ให้เข้าใจและรู้หลักการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างถูกต้อง ถูกวิธี จึงได้พัฒนาหลักสูตรอบรมสำหรับมือใหม่ หากสนใจสามารถคลิ๊กดูรายละเอียดได้ที่นี่ หรือ โทร 082-492-7166 (ตลอด 24 ชม.)