เว็บไซด์ http://www.ssi-steel.com
ดร.มารวย ผดุงสิทธิ์ ประธานกรรมการ
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่
สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริม และสนับสนุนให้ภาคเอกชนลงทุนในอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า? โดยมีวัตถุประสงค์ต้องการให้อุตสาหกรรมประเภทนี้ได้มีขึ้นในประเทศ? เพื่อสนองความต้องการและเป็นการทดแทนการนำเข้า? ตามที่ได้บรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ดังนั้น ในปี 2533 กระทรวงอุตสาหกรรมได้สรุปแนวทางของการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตเหล็กสมบูรณ์แบบ (Integrated Steel Works)?? โดยแนวทางของโครงการต่างๆ จะเป็นการลงทุนโดยเอกชนและจะได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)?? ทั้งนี้ตามที่คณะกรรมการ????? ส่งเสริมการลงทุนได้ออกประกาศฉบับที่ ป.1/2531? เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2531 เรื่องการส่งเสริมการผลิตเหล็กแผ่น? ภายหลังกระบวนการคัดเลือกผู้ลงทุนที่เหมาะสม? สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน?? มีมติให้กลุ่มสหวิริยาเป็นผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับ 3 โครงการคือ
- โครงการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน ดำเนินการโดยบริษัท? สหวิริยาสตีลอินดัสตรี? จำกัด? (มหาชน)
- โครงการผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็น ดำเนินการโดยบริษัท? เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย? จำกัด? (มหาชน)
- โครงการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี? ดำเนินการโดยบริษัท? เหล็กแผ่นเคลือบไทย? จำกัด
กลุ่มสหวิริยาจึงได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท? สหวิริยาสตีลอินดัสตรี? จำกัด? ขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2533 ด้วยทุนจดทะเบียน 4,000 ล้านบาท เพื่อสนองตอบนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล โดยได้รับบัตร??? ส่งเสริมการลงทุนเลขที่ 1140/2533 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2533 สำหรับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน ด้วยกำลังการผลิต 1.8 ล้านตันต่อปี
บริษัทเริ่มดำเนินการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2537 และจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2537 ต่อมาในวันที่ 13 มีนาคม 2538 ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำหรับการขยายกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน??? ชนิดม้วน จาก? 1.8? ล้านตัน เป็น? 2.4? ล้านตันต่อปี และในวันที่ 8 มิถุนายน 2547 บริษัทได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติม สำหรับการขยายกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน??? ชนิดม้วนจาก? 2.4? ล้านตัน เป็น 4 ล้านตันต่อปี และได้รับการส่งเสริมในกิจการเหล็กแผ่นรีดร้อนประเภทปรับผิวและเคลือบน้ำมันกำลังการผลิตสูงสุด 1 ล้านตันต่อปี
บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ เป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนรายแรกของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2533 ด้วยมูลค่าการลงทุนเริ่มต้นกว่า 13,300 ล้านบาท โรงงานผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนของเอสเอสไอได้รับการยอมรับให้เป็นโรงงานที่ทันสมัย และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนสูงสุด 4 ล้านตันต่อปี รวมทั้งกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนประเภทปรับผิวและเคลือบน้ำมันสูงสุดถึง 1 ล้านตันต่อปี โรงงานทั้งสองแห่งตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านตะวันตกของอ่าวไทย ณ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 400 กิโลเมตร และเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดในประเทศสำหรับการดำเนินธุรกิจเหล็กแบบครบวงจร
เพื่อการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมเหล็กแผ่นในประเทศ บริษัทได้ร่วมลงทุนในโครงการต่อเนื่องต่างๆ ?ดังต่อไปนี้
บริษัท | ร้อยละการถือหุ้นของบริษัท | ประเภทธุรกิจ |
บริษัทย่อย : | ||
|
51.00% | ให้บริการท่าเรือน้ำลึกซึ่งสามารถรองรับเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ระวางขับน้ำสูงสุด 100,000 ตัน จำนวน 2 ลำ เพื่อให้บริการ ขนถ่ายวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์เหล็กเป็นหลัก ที่ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ |
|
99.99% | ให้บริการงานซ่อมบำรุง งานออกแบบและงานควบคุมทางด้านวิศวกรรมแก่บริษัทและบริษัทอื่น |
บริษัทที่ควบคุมร่วมกัน : | ||
|
50.15% | ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นชนิดม้วน ด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 1.2 ล้านตันต่อปี โดยใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนเป็นวัตถุดิบในการผลิต |
บริษัทที่เกี่ยวข้อง : | ||
|
3.70% | ผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีด้วยกรรมวิธีทางไฟฟ้าชนิดม้วน ด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 240,000 ตันต่อปี โดยใช้เหล็กแผ่นรีดเย็นเป็นวัตถุดิบในการผลิต |
ด้วยโครงการลงทุนที่มีศักยภาพข้างต้น บริษัทจึงเป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรายเดียวในประเทศที่มีการลงทุนในอุตสาหกรรมเหล็กกลางน้ำถึงปลายน้ำที่ครบวงจรมากที่สุด สามารถผลิตสินค้าด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ในระดับสากล และสามารถบริหารจัดการช่องทางจำหน่ายสินค้าได้อย่างมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงการวิเคราะห์หุ้นได้ที่นี่
8 thoughts on “SSI บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน)”
เป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนรายแรกของประเทศไทยสถิติที่เคยมีมา และถ้ากดตัวเลขประมาณการ แทบจะบอกได้ว่าแค่ไตรมาสแรกอย่างเดียวกำไรของบริษัทอาจเท่ากับปี 52 ทั้งปีที่ 1.7 พันล้านบาท ดังนั้นอีก 3 ไตรมาสที่เหลือแทบไม่ต้องพูดถึง ทีนี้มาดูกราฟราคาเหล็กรีดร้อนกัน พบว่าราคาตอนนี้กำลังขึ้นสูงสุดในรอบ 14 เดือนแล้ว และเมื่อภาวะเศรษฐกิจเติบโตดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้ราคาปรับสูงขึ้นไปอีก ยอดการสั่งซื้อขยายตัวบานตะไทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าคิดกำไรปูดขึ้นมาสัก 2 เท่าก็พอนะ ไม่ต้องถึงขนาด 3 หรือ 4 เท่า กำไรต่อหุ้นก็จะปาเข้าไป 0.20 บาทในปี 53 นี่คิดแบบกันเองๆ ไม่โขกราคาเราให้ PE แถว 8 เท่าก็จะมีเป้าหมายราคาอย่างน้อยๆ 1.60 บาท ซื้อซะก่อนที่ข่าวดีนี้จะดังออกไปมากกว่านี้แล้วราคาแพง
SSI วันนี้ขอเบิ้ลอีกทีสำหรับหุ้นเหล็กพื้นฐานเปลี่ยนตัวนี้ เมื่อวานเด็กแนวโชว์ข้อมูลให้เห็นแล้วว่าปัจจัยบวกจากการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนในตอนนี้กลับมาแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายปี นักวิเคราะห์ไปค้นข้อมูลมาก็พบว่าเฉพาะยอดขายเหล็กสองเดือนของปี 53 นี้ อาจจะมากกว่ายอดขายของครึ่งปี 52 แล้วด้วย ผลของการที่คู่แข่งอย่าง GSTEEL, GJS ประสบปัญหาทางการเงินและการได้รับความเชื่อถือที่น้อยลงของสถาบันจัดอันดับเครดิต ทำให้ SSI กลับมาได้เปรียบ และมีอำนาจในการต่อรองที่สูงกว่า นอกจากนี้เงินบาทแข็งปั๋ง ส่งผลดีทั้งด้านอัตราแลกเปลี่ยน และการสั่งซื้อของได้ถูกลง รวมๆ กันแล้วรับหลายเด้งเลยนะ ผู้บริหารประเมินว่ายอดขายปีนี้จะมากกว่าปีก่อนราว 60% ซึ่งนักวิเคราะห์พอฟังอย่างนั้นก็ตาเหลือก เพราะกดเครื่องคำนวณดูแล้วมีโอกาสทำกำไรได้แตะ 5 พันล้านบาท สูงมั่กๆ หรือนับคร่าวๆ กำไรจะโตกว่าปี 52 ในระดับ 300% ไม่ได้หาง่ายๆ สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่อยา่ งนี้ ถ้ากำไรประมาณนั้น จะได้ EPS ที่ 0.40 บาท ให้ค่า PE 6 เท่าจะมีมูลค่าพื้นฐานที่เหมาะสมแถว 2.40 บาท มหาศาลเลยอ่ะขอบอกเพราะราคาหุ้นเพิ่งขึ้นมาได้แก่ 1.34 บาท ใครไม่ซื้อ ระวังจะรวยช้าเนอะขอบอก สัญญาณเทคนิคต้านหน้า 1.50 บาท เล่นสั้น ถือยาวได้ตลอดจ้า
SSI ปรับฐานอย่างนี้แหละดูดี เพราะอย่างที่เด็กแนวบอกว่าผลประกอบการ Q1 ที่มีโอกาสเห็นกำไรพุ่งกระฉูดแค่ไตรมาสเดียวแซงปี 52 ทั้งปี จนราคาหุ้นวิ่งยาวมาหลายวัน ทำให้นักลงทุนไม่กล้าซื้อตามเพราะกลัวว่าราคาจะไปได้ไม่ไกล แต่ถึงตรงนี้ลงมาปรับฐานให้สะสมรอบใหม่ เพราะเด็กแนวได้ประเมินมูลค่าในวันก่อนให้แล้วว่าถ้าคำนวณทั้งปี 53 จะมีกำไรโตไม่น้อยกว่า 400% ราคาที่เหมาะสม 2.40 บาท เอาเถอะ ราคาสินแร่เหล็กตอนนี้ทุบสถิติ เงินบาทแข็ง ก็รับไปสองเด้งทั้งราคาขายสูงขึ้น นำเข้าถูกลงปัจจัยท่วมท้นอะไรขนาดนั้น แนวต้าน 1.60 บาทแค่เอื้อม
SSI อันนี้ยกนิ้วให้อยู่แล้วว่าเป็นสุดยอดหุ้นเล็กในชั่วโมงนี้ที่นักวิเคราะห์ต่างโหวตให้ว่าสุดยอดเติบโตไม่มีเหวง ผลประกอบการไตรมาสแรกอย่างเดียวอาจจะมีกำไรบานตะไทไปแตะ 1.5 พันล้านบาทได้เลย เทียบกับปี 52 ทั้งปีมีกำไร 1,273 ล้านบาท ขอย้ำว่าตาไม่ฝาด แค่ Q1 อย่างเดียวโตกว่าปีก่อนทั้งปี เด็กแนวเคยให้ข้อมูลไปแล้ว และแทบจะให้ซื้อเก็บทุกวันล่าสุดผู้บริหารเผยว่า ในไตรมาส 1/53บริษัทมียอดการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนทั้งสิ้น 689,831 ตัน นับเป็นยอดผลิตรายไตรมาสสูงสูดเป็นประวัติการณ์ ถึงตรงนี้นักวิเคราะห์ก็ยังยืนยัน ว่าถ้าประเมินทั้งปี กำไรทะลักเป้าแตกอย่างมาก เพราะยอดการขายเหล็กรีดร้อนนั้นทุบสถิติอย่างไม่เคยมีมาก่อน เอาแค่ conservative ให้กำไรสัก 5,000 ล้านบาท ราคาที่เหมาะสมก็ต้องไม่หนี 2.40 บาทเข้าไปแล้ว แต่เท่าที่จับเข่าคุยกับนักวิเคราะห์กลับบอกว่าแค่ห้าพันล้านมันน้อยไปอ่ะเพ่แนว แล้วปันผลจะระเบิดระเบ้อขนาดไหนกัน
SSI อ่อนตัวแบบนี้แหละจังหวะของคนที่ยังไม่ได้เก็บ ก็ควรสะสมไว้ เพราะของเค๊าดีจริงๆ สุดยอดหุ้นเล็กในชั่วโมงนี้ที่นักวิเคราะห์ต่างโหวตให้ว่าผลประกอบการสุดยอดเติบโตไม่มีเหวง แค่ไตรมาสแรกอย่างเดียวอาจจะมีกำไรบานตะไทไปแตะ 1.5 พันล้านบาทได้เลย เทียบกับปี 52 ทั้งปีมีกำไร 1,273 ล้านบาท ขอย้ำว่าตาไม่ฝาด แค่ Q1 อย่างเดียวโตกว่าปีก่อนทั้งปี เด็กแนวเคยให้ข้อมูลไปแล้วหลายครั้ง เรื่องกำไรโตจะจริงหรือไม่ ก็เห็นได้จากล่าสุดผู้บริหารเผยว่าในไตรมาส 1/53บริษัทมียอดการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนทั้งสิ้น 689,831 ตัน นับเป็นยอดผลิตรายไตรมาสสูงสูดเป็นประวัติการณ์ ถึงตรงนี้นักวิเคราะห์ก็ยังยืนยัน ว่าถ้าประเมินทั้งปี กำไรทะลักเป้าแตกอย่างมาก เพราะยอดการขายเหล็กรีด
ร้อนนั้นทุบสถิติอย่างไม่เคยมีมาก่อน เด็กแนวเคยให้ดูกราฟราคาเหล็กรีดร้อนไปแล้วว่าไต่ระดับสูงสูดในรอบปี ในแง่การประมาณการเท่าที่ดูโดยรวมจากนักวิเคราะห์ เอาแค่ conservative ให้กำไรสัก 5,000 ล้านบาท ราคาที่เหมาะสมก็ต้องไม่หนี 2.40 บาทเข้าไปแล้ว แต่เท่าที่จับเข่าคุยกับนักวิเคราะห์กลับบอกว่าแค่ห้าพันล้านมันน้อยไปอ่ะเพ่แนว แล้วปันผลจะระเบิดระเบ้อขนาดไหนกัน
SSI อีกแล้วครับท่าน เด็กแนวไม่ได้มีอะไรกับบริษัทนี้ ไม่ได้รับเงินรับตังค์ใครมาเขียน แต่เชื่อในความดีของหุ้นจึงแน่ใจว่ายังน่าซื้อ ราคาหุ้นอ่อนตัวแบบนี้แหละจังหวะของคนที่ยังไม่ได้เก็บ ก็ควรสะสมไว้ เพราะของเค้าดีจริงๆ แค่ไตรมาสแรกอย่างเดียวอาจจะมีกำไรบานตะไทไปแตะ 1.5 พันล้านบาทได้เลย เทียบกับปี 52 ทั้งปีมีกำไร 1,273 ล้านบาท ขอย้ำว่าตาไม่ฝาด แค่ Q1 อย่างเดียวโตกว่าปีก่อนทั้งปี เด็กแนวเคยให้ข้อมูลไปแล้วหลายครั้ง เรื่องกำไรโตจะจริงหรือไม่ ก็เห็นได้จากล่าสุดผู้บริหารเผยว่า ในไตรมาส 1/53บริษัทมียอดการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนทั้งสิ้น 689,831 ตัน นับเป็นยอดผลิตรายไตรมาสสูงสูดเป็นประวัติการณ์ ถึงตรงนี้นักวิเคราะห์ก็ยังยืนยัน ว่าถ้าประเมินทั้งปี กำไรทะลักเป้าแตกอย่างมาก เพราะยอดการขายเหล็กรีดร้อนนั้นทุบสถิติอย่างไม่เคยมีมาก่อน เด็กแนวเคยให้ดูกราฟราคาเหล็กรีดร้อนไปแล้วว่าไต่ระดับสูงสูดในรอบปีในแง่การประมาณการเท่าที่ดูโดยรวมจากนักวิเคราะห์ เอาแค่ conservative ให้กำไรสัก 5,000 ล้านบาท ราคาที่เหมาะสมก็ต้องไม่หนี 2.40 บาทเข้าไปแล้ว แต่เท่าที่จับเข่าคุยกับนักวิเคราะห์กลับบอกว่าแค่ห้าพันล้านมันน้อยไปอ่ะเพ่แนว
ผลประกอบการออกมาแล้ว แม่นมากเลยครับพี่
SSI ผลประกอบการประกาศออกไปแล้ว ราคาก็เริ่มซึมลงตามสภาพของการ sell on fact แต่ราคาหุ้นกลับแข็งแรงมั๊กๆ
เพราะว่ากำไรที่แจ้งออกมานี้ไตรมาสเดียวก็มากกว่าปีก่อนทั้งปี และหากประเมินที่เหลืออีก 3 ไตรมาสมาส กำไรปีนี้จะทะลักเป้าทะลุไปไหนต่อไหน ราคาพื้นฐานให้กันเกินกว่า 2 บาท เด็กแนวจับประเด็นเพิ่มเติมว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างนี้ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาเหล็กนิ่งไป เพราะสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเหล็กมีการขายออกมาในต่างประเทศ แต่ราคาน้ำมันในปีนี้ยังมีเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 85 เหรียญ ดังนั้นเมื่อความกังวลยุโรปหมดไป เดี๋ยวค่าเงินดอลลาร์จะออกลง ราคาน้ำมันจะเด้งกลับ และเมื่อนั้นราคาเหล็กในตลาดโลกก็ถูกกลับมาเก็งกำไร ซึ่งแน่นอนว่าหุ้นเหล็กก็เด้งดึ๋งตามมานั่นเอง หุ้น SSI นอกจากพื้นฐานจะแกร่งแล้ว ก็ได้แรงเสริมจากราคาเหล็กที่เด้งขึ้นตามมา แถวนี้จึงเป็นโอกาสของการเก็บรอบใหม่ ส่วนด้านเทคนิคกราฟสวยเลย โอกาสวิ่งกลับไป1.70 บาทไม่ยาก ใครรักใครชอบก็เอาซะหน่อย